06.08.201917:06:00UTC+00เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

เงินดอลลาร์สหรัฐ โดยรวมยังคงแข็งค่าอยู่ เมื่อนำมาเทียบกับ สกุลเงินอื่นส่วนใหญ่ในวันอังคาร ถึงแม้ว่า การเคลื่อนไหวของมัน เมื่อนำมาเทียบกับสกุลเงินบางส่วน ค่อนข้างชะลอตัวลงไป เนื่องจาก ความกังวลเกี่ยวกับ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับ ประเทศจีน ที่ทวีความรุนแรงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แล้วส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตลาด ดัชนีเงินดอลลาร์ ปรับตัวสูงขึ้น ในตอนเช้าของวันอังคาร และยังอยู่สูงกว่าแนวเส้นของค่าที่ไม่เปลี่ยนแปลง มันเกิดขึ้นมาในช่วงสั้นๆ ระหว่างที่ช่วงเช้าตรู่ ที่ตลาดปรับตัวลงมา และปรับตัวต่อไปเล็กน้อย เข้าไปยังเขตพื้นที่สีแดงก่อนหน้าที่จะปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดิมอีกครั้ง ดัชนี ปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดที่ระดับ 97.77 แต่ก็ก้าวผ่าน ส่วนแบ่งที่สำคัญของการทำผลกำไร หลังจากเข้าสู่เซสชั่น แล้วก็ยังสามารถพบได้ว่า มันยังคงอยู่รอบๆระดับที่ 97.60 โดยเพิ่มขึ้นมาเป็น 0.08% จากระดับปิดก่อนหน้านี้ ค่าเงินดอลลาร์ ยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากระดับปิดก่อนหน้านี้ เมื่อนำมาเทียบกับเงินยูโร หลังจากที่อ่อนตัวลงมา จากระดับสูงสุดในตอนเช้าที่ระดับ 1.1172 ข้อมูลจากสถาบัน Destatis ได้ออกมานำเสนอในวันอังคารว่า คำสั่งซื้อจากโรงงานของประเทศเยอรมนี ได้ดีดตัวขึ้นมามากกว่า ที่ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนมิถุนายน ข้อมูลได้ระบุไว้ว่า คำสั่งซื้อของโรงงาน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ของเดือนมิถุนายน โดยย้อนตัวมาจากการปรับตัวลงถึง 2% ในเดือนพฤษภาคม สำหรับอัตราของการเติบโต เกิดขึ้นมามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ใน 0.5% ในขณะที่ คำสั่งซื้อในประเทศได้ลดลงไปอยู่ที่ 1% ในเดือนมิถุนายน ในแต่ละปีพบว่า คำสั่งซื้อจากโรงงาน ได้ลดลงไปอยู่ที่ 3.6% ในเดือนมิถุนายน แต่ก็ยังมากกว่า 8.4% ที่เคยลดลงไปในเดือนพฤษภาคม และก็คาดการณ์ว่าจะลดลงไปถึง 5.3% ข้อมูลจากการสำรวจจากสถาบัน IHS Markit ได้นำเสนอข้อมูลว่า กิจกรรมการก่อสร้างของประเทศเยอรมนี ปรับตัวลดลงไปเป็นครั้งแรก ในรอบเก้าเดือน จนถึงเดือนกรกฎาคม โดยมีดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อด้าน การก่อสร้าง ได้ตกลงมาอยู่ที่ระดับ 49.5 ต่อเดือนจากเดิมใน 50.0 ในเดือนมิถุนายน การสำรวจอีกส่วนจากสถาบัน IHS Markit แสดงให้เห็นถึง ดัชนี PMI ด้านการก่อสร้างของยูโรโซน ได้ลดลงไปเล็กน้อยที่ระดับ 50.6 จากเดิมใน 50.8 ในเดือนมิถุนายน ดัชนี PMI ด้านการก่อสร้างของประเทศฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นมาเป็น 52.4 จากเดิมใน 51.8 ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาอย่างมากที่สุด ในรอบเจ็ดเดือน ในขณะที่ดัชนี PMI ด้านการก่อสร้างของประเทศอิตาลี ได้ปรับตัวลงไปอยู่ที่ 49.8 ในเดือนกรกฎาคมจากเดิมที่อยู่ใน 50.7 ในเดือนก่อนหน้านี้ สกุลเงินของอังกฤษ ยอมแพ้ไปก่อนในช่วงที่จะมีการทำกำไร แต่ก็ยังปรับตัวขึ้นไปอยู่ในแดนบวก โดยที่เงินปอนด์ไปอยู่ในระดับที่ 1.2163 ดอลลาร์ นอกจากนั้น เงินดอลลาร์ อยู่ในแดนบวก ในช่วงตอนบ่าย ที่ได้ปรับตัวขึ้นไปยัง 1.2141 เงินเยนของประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวลดลงไปถึง 0.5% อยู่ที่ 106.48 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อนำาเทียบกับระดับของการปิดตัวในวันจันทร์ ที่ระดับ 105.96 เยนต่อดอลลาร์ ข้อมูลเบื้องต้นจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีแสดงให้เห็นว่า ดัชนีชี้นำของประเทศญี่ปุ่น ลดลงไปสู่ระดับต่ำสุด ในรอบเกือบเก้าปีครึ่ง จนถึงเดือนมิถุนายน สำหรับ ดัชนีชี้นำ ที่ใช้ตรวจวัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคต ปรับตัวลดลงไปสู่ระดับที่ 93.3 ในเดือนมิถุนายน จากเดิมระดับที่ 94.9 ในเดือนพฤษภาคม โดยตัวเลขที่คาดการณไว้สำหรับเดือนมิถุนายนคือ 93.5 ดัชนีชี้พ้อง แสดงให้เห็นถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ได้ปรับตัวลดลงไปเป็น 100.4 ในเดือนมิถุนายนจากเดิมที่อยู่ใน 103.4 ในเดือนก่อนหน้านี้ เงินดอลลาร์ ลดระดับลงไปเมื่อนำมาเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย ยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยเดิม แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ก้าวผ่านช่วงทำผลกำไรส่วนใหญ่ไปแล้ว และทรงตัวอยู่ที่ระดับ 0.6757 ซึ่งอยู่ห่างจากระดับสูงสุดของวันที่ระดับ 0.6801 คณะกรรมการจากธนาคารกลางออสเตรเลีย ซึ่งนำโดยคุณ Philip Lowe ยังคงใช้ อัตราดอกเบี้ย ไว้ในระดับต่ำสุดที่ 1.00% ซึ่งตรงกับการคาดการณ์ ธนาคารได้ออกมากล่าวว่า "คณะกรรมการ จะยังคงติดตามการฟื้นตัว ในตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด และ ผ่อนคลายในส่วนของนโยบายการเงินต่อไป ถ้าหากมันยังจำเป็น เพื่อการสนับสนุนต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคง และความสำเร็จตามเป้าหมายของอัตราเงินเฟ้อเมื่อเวลาผ่านไป" ผู้กำหนดนโยบายกล่าวว่า มันค่อนข้างสมเหตุสมผลที่จะคาดการณ์ได้ว่า การยืดระยะเวลาของการใช้งานอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ มีความจำเป็นต่อประเทศออสเตรเลีย จะในการสร้างความคืบหน้าในการลดระดับการว่างงานและ บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อตามที่ต้องการ เงินดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นมามากกว่า 0.5% ในระดบัที่ 1.3275 เมื่อนำมาเทียบกับเงินดอลลาร์แคนาดา แล้ว เมื่อนำมาเทียบกับเงินฟรังก์สวิสนั้น ได้เพิ่มขึ้นมาประมาณ 0.3% ในระดับที่ 0.9764 เงินหยวน ซึ่งร่วงลงมาอยู่ที่ระดับที่ 7.0582 ต่อดอลลาร์ โดยฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 7.0264 ที่ได้เพิ่มขึ้นมามากกว่า 0.3% ทางด้านธนาคารแห่งประชาชนจีน กำหนดจุดกึ่งกลางของสกุลเงินจีน ที่แข็งค่าขึ้นไปมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้