17.11.202120:52:00UTC+00เงินดอลลาร์ย้อนตัวหลังจากการปรับขึ้นไปถึงจุดยอดในรอบ 16 เดือน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนในเซสชั่นเอเชียของวันพุธ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางแห่งสหรัฐจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่กลางปี ​​2022 อย่างไรก็ตามค่าเงินอ่อนตัวลงในเวลาต่อมา โดยเทรดเดอร์ได้วิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจจำนวนหนึ่งแล้วจากสหรัฐและยุโรป ข้อมูลที่กระทรวงพาณิชย์รายงานนั้นได้แสดงให้เห็นว่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ลดลงอย่างฉับพลันในเดือนตุลาคม แม้ว่ารายงานดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ รายงานระบุจำนวนการสร้างที่อยู่อาศัยลดลง 0.7% สู่อัตราที่ 1.520 ล้านต่อปีในเดือนตุลาคม หลังจากที่ร่วงลง 2.7% เป็นอัตราปรับใหม่ใน 1.530 ล้านในเดือนกันยายน ในขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเพิ่มขึ้น 4% ไปเป็นอัตรา 1.650 ล้านต่อปีในเดือนตุลาคมหลังจากที่ร่วงลง 7.8% ไปเป็นอัตราปรับใหม่ที่ 1.586 ล้านในเดือนกันยายน ดัชนีเงินดอลลาร์ ซึ่งมุ่งหน้าขึ้นไปที่ 96.24 ในเซสชั่นเอเชีย ได้ร่วงลงมาที่ 95.73 ในวันต่อมาและกำลังลอยตัวอยู่ที่ราวๆ 95.80 โดยลงไปมากกว่า 0.1% จากการปิดก่อนหน้านี้ หากเทียบกับเงินยูโร ค่าเงินดอลลาร์มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 1.1322 หลังจากแข็งค่าที่ 1.1265 ก่อนหน้านี้ในวันนั้น ข้อมูลสุดท้ายจาก Eurostat แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ในเดือนตุลาคม โดยขึ้นมาเป็น 4.1% ในเดือนนี้จาก 3.4% ในเดือนกันยายน อัตรานี้ออกมาตรงกับการประมาณการแฟลชที่นำเสนอไว้เมื่อวันที่ 29 เดือนตุลาคม อัตราที่สูงกว่านี้ที่คล้ายกันเคยพบมาแล้วในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2008 ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมายัง 1.3492 เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ ที่ลดลงมาเกือบ 0.5% ข้อมูลอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อในราคาผู้บริโภคของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือนตุลาคมจากเดิม 3.1% ในเดือนกันยายน อัตรานี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 3.9% เงินดอลลาร์กำลังไปที่ 114.14 เยนเมื่อเทียบกับ 114.83 เยนในช่วงเย็นของวันอังคาร เงินดอลลาร์จะเทรดอยู่ที่ 0.7265 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่เพิ่มขึ้นจาก 0.7303 เงินฟรังก์สวิสได้แข็งค่าขึ้นมา 0.9280 ต่อดอลลาร์โดยเพิ่มขึ้นจาก 0.9303 เงินดอลลาร์กำลังเทรดที่ 1.2607 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นจาก 1.2561 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวนั้นส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์แคนาดา ข้อมูลจากสถิติของแคนาดาแสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของแคนาดาเพิ่มขึ้น 0.5% ในรอบเดือนตุลาคมที่ปรับตามฤดูกาล หลังจากที่เพิ่มขึ้นมาแล้วถึง 0.6% ในเดือนก่อนหน้า หากไม่รวมกับอาหารและพลังงาน ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานได้เพิ่มขึ้น 0.2% ตามการเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกันยายน ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 4.7%ในรอบปีในเดือนตุลาคม ซึ่งตรงกับการคาดการณ์