ในเดือนกรกฎาคมพบว่า คู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ (GBP/USD) ได้ปรับตัวออกจากระดบัต่ำในรอบปี และในอีกไม่กี่วันของการซื้อขาย ก็จะสามารถเคลื่อนตัวเข้าไปหาระดับกึ่งกลางของระดับ 33 ได้ โดยยังคงแสดงความเชื่อมั่นในเชิงบวกออกมา ดังนั้นแล้วเงินดอลลารืสหรัฐ พยายามที่จะต่อต้านไว้ แต่เงินปอนด์ก็กำลังขยับตัวขึ้นไปแล้วค่อยๆกลับไปสู่สถานะที่หายไป
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ในช่วงของการลงประชามติในประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับการถอนตัวของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ออกจากสหภาพยุโรป มันเป็นปัญหาของการดำเนินการ Brexit ที่จะเข้ามาแทนที่ปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ อีกด้วย สำหรับอัตราเงินเฟ้อของอเมริกา หรือโอกาสในการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จากทางธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ดังนั้นแล้ว ความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างลอนดอนและบรัสเซลส์ กำลังเป็นประเด็นกันอยู่ ดังนั้นเทรดเดอร์จึงได้เกาะติดสถานการณ์ข่าวต่างๆที่มีความสำคัญ ตามประเด็นนี้เป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว
เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีข้อยกเว้นใดๆเกิดขึ้นตามมา สำหรับ 'การถอนตัว' ในครั้งใหม่ ก็จะเริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ ที่ทางด้านคุณ Theresa May ได้ทำการรวบรวม สมาชิกของคณะรัฐมนตรี ในที่พำนักของประเทศเข้า ให้ร่วมการประชุมของรัฐบาล จากส่วนนี้ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศอังกฤษ จึงออกมาประกาศว่าได้มีการดำเนินการใหม่ต่อ Brexit ขึ้นมา ซึ่งอาจจะแตกต่างไปจากแนวทางเดิมอย่างชัดเจน
ข้อแตกต่างหลักๆ ก็คือ การรักษาระดับที่สำคัญของการรวมเข้า กับสหภาพยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านธุรกิจ ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เนื่องจาก "White paper" (สถานการณ์ความสัมพันธ์ในอนาคตกับสหภาพยุโรป) อาจจะได้นำเสนอออกมาในวันที่ 10 เดือนกรกฎาคม แต่ หากมาอ้างอิงตามข้อมูลจากหลายแหล่ง จะพบได้ว่า การดำเนินการที่เสนอออกมาของ การค้าแบบทวิภาคีกับสหภาพยุโรป ไม่ได้แตกต่างออกไปจากข้อกำหนดของสหภาพศุลกากรในตอนปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณ Theresa May อาจตัดสินใจที่จะลดระดับแนวโน้มของเธอลงไปอย่างมากในช่วงที่มี การประชุมอียูครั้งถัดไป ที่จะจัดขึ้นในช่วงสิ้นเดือน
มันเป็นจุดเปลี่ยนที่หนักหน่วง อย่างการไม่เห็นด้วยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง Brexit คุณ David Davis เพราะว่าเขาขอลาออก เป็นที่น่าสังเกตว่า คุณ Davis ได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนอย่างมากที่สุดในสถานการณ์แบบการเกิด "เต็มตัว" สำหรับการถอนตัวของประเทศ ออกจากสหภาพยุโรป ดังนั้นแล้ว การลาออกของเขาจึงมองว่า เป็นผลกระทบต่อเงินปอนด์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามคู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ (GBP/USD) เริ่มต้นการซื้อขายในรอบสัปดาห์แล้ว แม้ว่าจะมาจากช่องว่างที่เพิ่มขึ้นในขาขึ้น แต่ก็ยังไม่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นมา
อย่างแรก เทรดเดอร์อาจจะสับสน เกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง พร้อมกันกับที่นาย เดวิสDavis, เลขาธิการของกระทรวง Brexit คุณ Steve Baker และรัฐมนตรี Suella Braverman ได้ลาออกจากตำแหน่ง ดังนั้นแล้ว สื่อมวลชนในอังกฤษเริ่มพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้สนับสนุนของ Brexit แบบเต็มตัวในพรรคอนุรักษ์นิยม ได้เริ่มต้นการลาออก เนื่องจากมันมีการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการเกิดขึ้นมา อย่างที่สองจะพบได้ว่า ตลาดกำลังรอการนำเสนอ "White paper" ล่าสุดออกมา โดยจะมีเนื้อหา บางส่วนนำเสนอออกมาภายในวันศุกร์นี้ แต่เหตุการณ์ทางการเมือง ก็ได้ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยน ในตัวเองขึ้นมา ดังนั้นแล้ว เนื้อหาของเอกสารที่จะเสนอแนวทางในอนาคตออกมา พวกเราก็จะเริ่มทราบกันในเร็วๆนี้
นั่นคือเหตุผลที่ แนวโน้มขาขึ้นใน คู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์ ยังไม่ได้เร่งรีบ ที่จะเฉลิมฉลองชัยชนะ แม้ว่าจะมีสภาวะในตอนแรกที่ค่อนข้างดี แต่ความเสี่ยงต่อความผิดพลาดเองก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ในอีกด้านหนึ่งจะพบได้ว่า มีโอกาสที่ค่อนข้างน้อยที่คุณ Theresa May อาจจะถูกไล่ออกในช่วงวันที่มีการเจรจาสำคัญกับทางเบลเยี่ยม ดังนั้นแล้ว ในกลุ่มของพรรคอนุรักษ์นิยม ก็มีผู้สนับสนุนและฝ่ายตรงข้ามสำหรับแนวทาง Brexit "แบบเต็มตัว" มันจึงไม่ใช่การที่พรรคอนุรักษ์นิยมทั้งหมด ออกมาประท้วงต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี เพื่อรักษาระดับที่สำคัญต่อการรวมตัวกับยุโรป แม้วนักวิจารณ์จากสำนักดั่งเดิมของนายกรัฐมนตรี อย่างคุณ Boris Johnson ก็ยังไม่ขอออกมาให้ความเห็น (ในขณะนี้) เกี่ยวกับการลาออกของคุณ Davis และในขณะนี้เอง ก็ยังไม่มีการลาออกตามเขา ทางด้านคุณ Theresa May เองก็อาจจะต้องประสบที่นั่งลำบากในการเป็นนายกรัฐมนตรี ทางด้านคุณ Dominic Raab ที่เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการ Brexit ของทางรัฐบาลของเธอ ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยดำรงรองผู้ว่าของกระทรวงกิจการภายใน และรัฐบาลท้องถิ่น โดยก่อนหน้านี้ยังเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
การตัดสินใจของบุคลล ได้สร้างความสงบเข้าสู่ตลาดเพียงเล็กน้อย แต่แนวโน้มขาขึ้นของคู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ (GBP/USD) ก็ยังคงไม่เร่งรีบที่จะเดินหน้าเข้าสู่การต่อสู้ สำหรับเทรดเดอร์คนแรกๆ ต้องการประเมินปฏิกิริยาของ รัฐสภาอังกฤษ ต่อเหตุการณ์ล่าสุดก่อน และต่อจากนั้น เพื่อประเมินแนวโน้มของความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ตามบริบทของเนื้อหาใน "White Paper" ถ้าหากหลังจากที่ Brexit "แบบครึ้งตัว" ได้เกิดขึ้นจริง เงินปอนด์ก็จะได้รับการสนับสนุนอย่างมากขึ้นมา มิฉะนั้นแล้ว คู่สกุลเงินนี้ก็จะไปอยู่ภายใต้แรงกดดันของความไม่แน่นอน จากนั้นก็จะย้อนกลับไปสู่ระดับต่ำในรอบปี
ในส่วนของทางเทคนิค จะพบได้ว่า คู่สกุลเงินปอนด์และดอลลาร์สหรัฐ (GBP/USD) ได้มีโอกาสที่จะไปทดสอบอีกครั้งในระดับแนวต้านที่ใกล้ที่สุด นั้นก็คือ 1.3380 ซึ่งได้สอดคล้องกับแนวเส้นด้านบนของตัวบ่งชี้ Bollinger Bands ในชาร์ตรายวัน ดังนั้นระดับถัดไปที่ใกล้ที่สุดก็คือ 1.3405 (ลิมิตด้านล่างของกราฟรูปแบบคลาวด์ Kumo ในช่วงเวลาเดียวกัน) หลังจากที่ได้มีการรวมกำลังอยู่เหนือระดับแนวต้านไปแล้ว คู่สกุลเงินนี้ก็จะมีเส้นทางในขาขึ้นของคลาวด์ ไปยังระดับของแนวที่ 37 แต่มันก็ยังเร็วเกินไปที่จะมาพูดถึงประเด็นนี้ เพราะว่าเหตุการณ์ทางการเมือง ก็สามารถทำให้คู่สกุลเงินนี้ร่วงลงไป ในระดับต่ำสุดของรอบรายเดือนได้และรายปีได้ ส่วนประเทศอังกฤษ กำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรียกว่าระหว่าง การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ระหว่างแบบ "เต็มตัว" และ "ครึ้งตัว" แล้วสกุลเงินปอนด์เองก็จะยังเป็นตัวกำหนดทิศทางการดำเนินการอีกด้วย โดยจะขึ้นอยู่กับ ใครที่จะชนะในการเผชิญหน้าครั้งนี้
