เงินดอลลาร์เริ่มต้นในสัปดาห์ใหม่ด้วยผลที่ดี แนวโน้มของเงินดอลลาร์สหรัฐดีขึ้นมาจากการคาดการณ์โดยรวมของ ผู้เชี่ยวชาญของ Bloomberg ที่ได้อ้างอิงมาว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในไตรมาสแรก จะขยายตัวขึ้นมา 2.2% ไม่ใช่ 1.5% อย่างที่เคยบอกไว้ในเดือนมีนาคม ในเวลาเดียวกัน ผู้ทำแบบสอบถามจาก Wall Street Journal พบกับตัวเลขที่ 2.4% และตัวชี้วัดชั้นนำจากทางธนาคารกลางแห่งแอตแลนต้า แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นมาของจีดีพีถึง 2.8%

ในวันจันทร์พบว่า ดัชนีค่าเงินดอลลาร์มีการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 97 ยังทรงตัวอยู่ใกล้กับ ระดับสูงสุดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สำหรับการย้อนกลับที่เกิดขึ้นมา ได้เกิดขึ้นมาน้อยลงและน้อยลง มันอาจแสดงให้เห็นถึง แรงกดดันที่ลดลงไปจาก "แนวโน้มขาลง" ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเคลื่อนตัวทะลุผ่านในแนวต้าน สามารถเปลี่ยนขอบเขตของแนวโน้มขาลง ให้อยู่ในระดับที่สำคัญใน 100 จากนั้น มันก็เป็นไปได้ที่จะไป ทดสอบกับตำแหน่งที่ 103 ซึ่งเงินดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมาในช่วงต้นปี 2017

แน่นอนว่า เศรษฐกิจที่ดีจะเป็นสภาวะที่เหมาะสำหรับเงินดอลลาร์ แต่กลับไม่ใช่ในกรณีนี้ ทางธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ในตอนนี้อยู่ในช่วงการจับตาดู และรอคอย ดังนั้นผลประโยชน์จึงอาจจะไปอยู่ในจีดีพีในทั่วโลก

ประธานแห่งธนาคารกลางชิคาโก คุณ Charles Evans ออกมากล่าวว่า ในกรณีที่ อัตราเงินเฟ้อลดลงไปและ อยู่ในระยะยาวนานเกือบ 1.5% ทางธนาคารกลางจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและ ลดระดับนโยบายทางการเงิน โดยผลการศึกษาของ JP Morgan แสดงให้เห็นว่า ดัชนีของ ค่าใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล จะลดระดับลงไปในเดือนมีนาคม ไปเป็น 1.6% คุณ Richard Clarida รองประธานของเฟด กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจแบบถดถอยนั้น ไม่ได้เป็นเพียงเหตุผลเดียว ที่ก่อนหน้านี้ทางการ ได้หันไปใช้การขยายตัวทางการเงิน ดังนั้นในช่วง 12 เดือนจาก เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1994 พบว่า อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาจากเดิมที่ 3.25% ไปเป็น 6% และจากนั้น ก็ลดลงไป ในการประชุมของคณะกรรมการผู้กำหนดนโยบายทางการเงินทั้งสามครั้ง ส่วนเหตุผลคือ อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของธนาคารกลางอยมาก

มันอาจเป็นเรื่องตลก แต่ถ้าหากคุณใช้วิธีการศึกษาจากทาง Eurostat ในการคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกาดูจะพบว่า สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงไปเป็นเท่าตัว มันกลายเป็นว่าราคาในอเมริกา จะลดระดับลงไป แต่เร็วกว่าในยูโรโซน

สำหรับคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) มันดูเหมือนจะปรับตัวลง ไม่ได้มาจากการแข๋งค่าของเงินดอลลาร์ แต่เป็นการอ่อนค่าของเงินยูโร อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและ ทางประเทศจีน อาจจะทำให้ตัวบ่งชี้อยู่สูงกว่าการคาดการณ์ มันจึงทำให้จะได้รับผลกระทบที่ดีต่อจีดีพีของเงินยูโรในสหภาพยุโรป

นอกจากนั้น ได้เกิดการชะลอตัวลงในการเติบโตในของเขตยูโร แล้วสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการอ่อนค่าของคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) คือความแตกต่างของระดับอัตราดอกเบี้ยในเฟดและ ธนาคารกลางแห่งยุโรป โดยปัจจัยนี้ ยังทำให้การขายของคู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) ทำกำไรได้ดี ในกรณีที่มีความผันผวนที่ต่ำ อย่างเช่นตอนนี้ ดังนั้นแล้ว อุปสงค์ต่อ เงินทุนที่กู้ยืมมาในรูปของสกุลเงินยูโร เพื่อการซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้มูลค่าที่ลดลง ในอนาคตอันใกล้นี้

สกุลเงินยูโร อาจจะมีการปรับตัวขึ้นไปจนถึง 1.12ดอลลาร์ และอาจต่ำกว่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แนวโน้มของการเคลื่อนตัวลงด้านล่างนั้นค่อนข้างเกิดขึ้นอย่างจำกัด และ ในการย้อนกลับไปยังแนวต้านที่ 1.1325 ดอลลาร์ จะเป็นข้อโต้แย้งดีสำหรับคนที่ชื่นชอบเงินยูโร

เกี่ยวกับเงินปอนด์

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้นำเสนอข้อมูลสถิติที่ "ไม่แน่นอน" ออกมา สำหรับการลดลงของอัตราเงินเฟ้อ ไม่ได้เพิ่มการเพิ่มการมองโลกในแง่ดีเลย แต่การเติบโตของค่าจ้างอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับแนวโน้มในการค้าปลีก ที่จะสนับสนุนต่อแนวทาง ของการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางของอังกฤษ มันควรมีการดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในกรณีของสหราชอาณาจักรอังกฤษที่ "ทำกำไร" ในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป มันค่อนข้างซับซ้อน ยังไม่มีการถอนตัวโดยปราศจากข้อตกลง ซึ่งอาจจะไม่เป็นที่ยอมรับในขณะนี้ และก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่า ทางเลือกไหน ที่ธนาคารกลางพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่ "ดีที่สุด"

รัฐสภา กำลังกลับมาทำงานหลังจากวันหยุดช่วงวันอีสเตอร์ที่ยาวนาน แต่ก็ยังไม่มีการลงมติครั้งใหม่ ในประเด็นของ Brexit ที่มีการวางแผนไว้ในช่วงนี้ ส่วนเทรดเดอร์ก็คาดการณ์ไว้ว่าอย่างน้อยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับ การประนีประนอมจากทางนักการเมืองชาวอังกฤษออกมา

มีข่าวลือออกมาว่า ผู้นำในประเทศอีกฝ่ายอย่าง พรรคแรงงานมาพร้อมกับข้อเสนอสำหรับคุณ Corbyn ที่จะปฏิเสธถึงการลงประชามติซ้ำๆ เพื่อมาหาข้อสรุปที่จะกลายมาเป็นข้อตกลงที่ได้รับการรับรอง โดยขั้นตอนดังกล่าว จะช่วยให้เกิดการประนีประนอมกับทางรัฐบาล รวมไปถึง ในแง่ของการรักษาความเป็นสมาชิกของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ในสหภาพศุลกากรกับ สหภาพยุโรป แต่ถ้าหาก คุณ Theresa May และ Jeremy Corbyn สามารถตกลงกันได้ จากนั้นอย่างน้อยๆ ก็จะได้รับการสนับสนุนทางการเมืองภายในประเทศ จากทางสหภาพยุโรป ส่วนจัดกา ก็จะไปกระตุ้นให้เกิดการเติบโตที่มั่นคงต่อปอนด์ และจากนั้นก็เป็นเงินยูโร