การประชุม G-7 ได้กลายมาเป็นส่วนที่สร้างความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ระหว่างทำเนียบขว และคู่ค้าอื่นๆกับทางสหรัฐอเมริกา สำหรับการเจรจากันต่อหน้าก็ไม่ได้นำไปสู่ความรู้สึกใดๆเกิดขึ้นตามมา ในทางตรงกันข้าม โลกทางการก็เชื่อไปแล้วอีกครั้งว่า สงครามทางการค้าจะได้รับโมเมนตัม ตราบเท่าที่นาย Donald Trump ครอบครองอำนาจทั้งหมดในที่ทำงานไปได้ ทางด้านประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ยอมให้สัมปทานหรือการประนีประนอมใดๆ แม้จะปล่อยให้เขาออกจากกลุ่ม G7 ไป แล้วหลังจากออกจากการประชุมไปก่อนหน้าตามที่กำหนดไว้ นาย Trump ก็ไม่ได้ลงนามอีกด้วย และต่อมาก็ไม่มีการแถลงการณ์ครั้งสุดท้ายอีกด้วย เพื่อเป็นการยืนยันการแยกตัวออกจากตำแหน่งที่สำคัญในประเด็นภายใต้การเจรจา
พฤติกรรมของผู้นำชาวอเมริกันคนนี้จะพูดค่อนข้างมาก ในประการแรก ชะตากรรมของข้อตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ได้อยู่ใน "พื้นที่สุ่มเสี่ยง" ขณะที่นาย Trump และนายกรัฐมนตรีประเทศแคนาดา Trudeau ก็ได้ออกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อกัน โดยที่หนึ่งในที่ปรึกษาของทำเนียบขาว ได้กล่าวว่าสหรัฐอเมริกายังไม่ได้ถอนตัวออกจากข้อตกลง แต่ "ชะตากรรมของการเจรจายังไม่ชัดเจน" สำหรับการเจรจาจะมีระยะเวลา 10 เดือน ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกข้อตกลงฉบับนี้จึงสูงมาก นอกจากนี้แล้ว ชาวอเมริกันเองก็ยังมีการนำเสนออัตราภาษี สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่นำเข้า (ที่จะเกิดขึ้นหลักๆก็จะอยู่ในประเทศเยอรมนี) รวมถึงสินค้าของประเทศจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ "China 2025"
ต่อจากนี้แล้ว นาย Donald Trump ก็จะสามารถใช้งานองค์ประกอบทั้ง "สามส่วน" ของสงครามการค้าไปได้ กับทางประเทศแคนาดา, สหภาพยุโรปและประเทศจีน แนวโน้มเช่นนี้อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงไป ดังนั้นแล้วผลกระทบเชิงลบจากขั้นตอนดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นเพียงแต่เงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึง สกุลเงินอื่น ๆ อีกมากมาย ความจริงก็คือทางด้านธนาคารกลางแห่งยุโรป,ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา และหลายธนาคารกลางอื่นๆชั้นนำในระดับโลก ได้ออกมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก ถึงผลกระทบเชิงลบของสงครามการค้าโลก ในแนวโน้มของการตัดสินใจเพิ่มเติมต่อมุมมองทางนโยบายการเงิน และถ้าธนาคารกลางแห่งยุโรป อาจจะไม่ปฏิเสธที่จะระงับโครงการการกระตุ้นทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงไป ดังนั้นทางเฟดก็อาจจะ จำกัดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงสามรอบเท่านั้น ส่วนสถานการณ์ในตอนนี้ ส่วนใหญ่จะถูกนำมาพิจารณาในราคาปัจจุบัน ดังนั้นการยังไม่ได้ข้อสรุปของสมาชิกที่กำกับดูแลของสหรัฐอเมริกา ก็จะสร้างแรงกดดันต่อเงินดอลลาร์อีกด้วย
แม้ผลการประชุม G7 จะไม่ได้ส่งผลดีนัก แต่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก็ไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย ความจริงก็คือ ในสัปดาห์นี้มีการรวมตัวของเหตุการณ์หลายๆอย่าง ที่มีความสำคัญ ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ทางด้านเทรดเดอร์ก็จะยืดระยะการลงข้อสรุป "ที่ขาดหายไป" เนื่องจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หัวหน้าธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของกลุ่ม G7 ในแง่ของการดำเนินการที่เป็นไปได้ของหน่วยงานผู้กำกับดูแล ดังนั้นแล้วการประชุมของรอบเดือนมิถุนายนของเฟด ไม่ได้เป็น "ทางผ่าน" ซึ่งเป็นความหวังที่ตลาดที่จะได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมออกมา เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่คุณ Jerome Powell จะจัดการแถลงข่าว หลังการประชุม โดยที่หนึ่งในหัวข้อของการอภิปรายจะเป็น นโยบายการค้าต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาในเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อการแก้ไขสถานการณ์ของทางเฟด
นอกจากนี้แล้ว ในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับ การเติบโตของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา โดยรวมแล้วจะพบว่าการคาดการณ์โดยรวมยังดีอยู่ โดยที่จะมีการเพิ่มขึ้นถึง 0.2% ในรายเดือนและอีกใน 2.7% ในรายปี ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคหลักอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน (0.1% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และ 2.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา) ขณะที่พวกเราสามารถพบได้ว่า อัตราเงินเฟ้อควรจะแสดงให้เห็นว่ากำลังที่อ่อนแอ แต่ยังคงอยู่ในช่วงบวก มันก็ควรมีการสังเกตว่า ระดับของค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยยังมาอยู่ใน "โซนสีเขียว" นั้นก็คือ 0.3% ดังนั้นแล้ว จึงมีความเป็นไปได้สูง ที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญไม่เท่ากัน ก็มากกว่าเล็กน้อย
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ตลาดอาจจะเริ่มระมัดระวังในการซื้อหรือขายเงินดอลลาร์ออกไป ขอแจ้งเตือนให้คุณทราบว่า ข้อความของผลการประชุมที่ได้รายงานออกมา ล่าสุดของเฟด ที่ได้ระบุว่า "ลดกำลังลง" ของแนวโน้มขาขึ้นในเงินดอลลาร์ ทางสมาชิกของหน่วยงานควบคุมได้กล่าวว่า การปรับตัวเกินระดับเป้าหมายเงินเฟ้อ ไม่ใช่เหตุผลที่จะเร่งการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ดังนั้นแล้ว แม้จะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐในรอบเดือนพฤษภาคม แต่การซื้อเงินดอลลาร์ก็ควรดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
ตลาดยังคงจับตาไปที่กผลารประชุมที่จะเกิดขึ้น ระหว่าง Donald Trump และKim Jong-un ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เป็นวันที่ 12 เดือนมิถุนายน สำหรับเหตุการณ์นี้ โดยไม่มีการพูดเกินจริง ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นเรื่องในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ แต่เนื่องด้วยลักษณะนิสัยของผู้เข้าร่วมในการประชุมนั้น ก็ไม่กล้าม่ใครที่จะรีบตั้งข้อสรุปได้อย่างรวดเร็ว และตามความจริงแล้ว มันก็อาจจะส่งผลต่อพฤติกรรมของเทรดเดอร์ก็เป็นได้
ดังนั้นแล้วเหตุการณ์สำคัญๆ ในสัปดาห์นี้จึงได้ไปบดบังผของการดำเนินงานของ G7 ในรอบปี 2018 และพวกเขาจะต้องนึกถึงตัวเองเมื่อ นาย Trump เริ่มตระหนักถึงเจตนารมณ์ของเขาเกี่ยวกับสัญญา NAFTAและเรื่องของโครงการ "China 2025" และเกี่ยวกับสหภาพยุโรป แต่จะเป็นหลังจากการประชุมในประวัติศาสตร์ที่จะจัดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ โดยที่นาย trump ต้องการได้รับชื่อเสียงว่าเป็น "นกพิราบสันติภาพของโลก"
ในบริบทของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้นจะพบได้ว่า สถานการณ์จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากการประชุมของรอบเดือนมิถุนายนของทางเฟด โดยจะขึ้นอยู่กับว่าคุณ Jerome Powell จะออกมารับมืออย่างไรต่อ ชะตากรรมของเงินดอลลาร์ในระยะกลาง
ทางเทคนิคแล้วจะพบได้ว่า คู่สกุลเงินยูโรและดอลลาร์ ได้แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของแนวโน้มพื้นฐาน โดยที่ราคาได้อยู่ระหว่างเส้นตรงกลาง กับด้านบนของตัวบ่งชี้ Bollinger Bands แต่อยู่ภายใต้กราฟเมฆหมอก Kumo และเหนือเส้น Kijun-sen ส่วนการขาดสัญญาณที่ชัดเจน ก็แสดงให้เห็นว่า ยังจำเป็นต้องรอและให้มีการตรวจสอบแนวโน้มของข่าวในคู่สกุลเงินก่อน
